สวนแนวตั้ง (Vertical Garden) คือ......
เมื่อก่อนนั้น สวนที่ปลูกในแนวดิ่งขึ้นไปตามแนวกำแพงส่วนใหญ่ จะเป็นไม้เลื้อย ไม้ใส่กระถางหรือรางแล้วนำมาแขวนต่อเนื่องกันเป็นชั้นๆ หรือปลูกต้นตีนตุ๊กแกให้ไต่ขึ้นไปตามกำแพง ซึ่งเป็นรูปแบบธรรมชาติที่เราไม่อาจเข้าไปออกแบบได้มาก และไม่ใช่สวนในแบบที่เราจะพูดถึงกัน
จนกระทั่งในช่วงประมาณปี 2552 นักพฤกษศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านนึง ชื่อ แพรคทริก บลังค์ ได้คิดวิธีการทำ สวนแนวตั้งแบบใหม่ ขึ้น โจทย์ที่แตกต่างจากสวนแนวตั้งเดิม คือการปลูกต้นไม้ขึ้นไปตามแนวดิ่งของกำแพง โดยใช้พรรณไม้หลากหลายชนิดนำมาจัดสรร ตกแต่ง ให้เป็นงานศิลปะ โดยใช้ความรู้ทางพฤกษศาสตร์ วัสดุศาสตร์ และวิศวกรรม เข้าช่วย ให้มั่นใจว่าต้นไม้จะคงอยู่ได้ ไม่แตกต่างจากการปลูกต้นไม้ธรรมดา
ปัญหาหลักๆ ใหญ่ๆ คือ 1) การทำสวนแนวตั้ง ไม่ใช่เพียงการนำต้นไม้ขึ้นไปใส่ไว้ในถุงผ้าแขวนบนกำแพง วัสดุปลุกธรรมชาติเช่น ดิน กาบมะพร้าว ใยต่างๆ มีอายุไม่ถึงปีจะสลายตัวไป ในกระเปาะผ้าจะโปร่ง และต้นไม้จะตาย ดังนั้นจึงต้องหาวัสดุสังเคราะห์ที่มีอายุยาวนานและทำหน้าที่แทนดินได้มาทดแทน เพื่อให้รากต้นไม้เข้าไปเติบโตในนั้น 2)ระบบรดน้ำให้ปุ๋ย ที่สัมพันธ์กับว้สดุปลูกที่นำมาทดแทน ให้สามารถเก็บน้ำให้รากได้อย่างเหมาะสม ต้นไม้ต้องได้ดูดซึมและมีการแลกเปลี่ยน ปริมาณอ๊อกซิเจนและแร่ธาตุได้อย่างถูกต้อง โดยรากไม่จมน้ำเน่าตาย และไม่กระจายเลอะเทอะในพืนที่ที่ทำการตกแต่งสวนนั้นๆ 3)การคัดเลือกพรรณไม้ ว่าชนิดใดสามารถปลูกในลักษณะนี้ได้หรือไม่ อัตราการเจริญเติบโตและลักษณะความเป็นอยู่ของพรรณไม้ก็เป็นส่วนสำคัญ
ดังนั้น หากผู้ทำและลูกค้าเข้าใจหลักการคิดนี้ จะเข้าใจและย้ำว่าสวนแนวตั้งไม่ใช่การนำต้นไม้ขึ้นไปใส่ถุงแขวน และปล่อยให้ตายในระยะเวลาอันสั้นเมื่อวัสดุปลูกสลายไป หากลูกค้าไม่ต้องการที่จะรื้อสวนแนวตั้งบ่อยๆ เพื่อเพิ่มวัสดุปลูกหรือเปลี่ยนต้นไม้ใหม่ทั้งหมด สวนแนวตั้งที่ดีผู้ทำต้องศึกษาให้เข้าใจเงื่อนไขดังที่กล่าวมาครับ